สัญลักษณ์ประจำจังหวัดพะเยา
คำขวัญ :
กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง
บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง
งามลือเลื่องดอยบุษราคัม
ชื่อลาย :
แอ่วดอยกว๊านพะเยา
ความหมาย :จากลายผ้า”แอ่วดอยกว๊านพะเยา” จะเห็นได้ว่าจะมีเจดีย์กลางน้ำ
ซึ่งเรียกว่า กว๊านพะเยา กว๊านพะเยาเป็นบึงที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ
อยู่ใจกลางเมืองพะเยามีทิวเขาเป็นฉากหลัง
มีดอกบัวในน้ำที่เห็นถึงความอุดมสมบรูณ์ของธรรมชาติ
สี : สีบานเย็น เป็นสีประจำจังหวัดพะเยา
สีเหลืองอมส้ม
เป็นสีของหอพระเเก้วมรกตจำลองด้วยทองคำ
สีน้ำตาล เป็นสีของทิวเขา
สีฟ้า เป็นสีของน้ำ
สีแดง เป็นสีของเจดีย์กลางน้ำ
สีเหลือง เป็นสีของพระพุทธรูป
สีชมพู เป็นสีของดอกบัว
สีเหลืองอมน้ำตาล
เป็นสีของก้านบัว
สีเขียว
เป็นสีของใบบัว
สีม่วงอ่อน
เป็นสีพื้นหลังที่ทำให้ลายมีความโดดเด่น
ประวัติความเป็นมาของจังหวัดพะเยา
ประวัติความเป็นมาของจังหวัดพะเยา
พะเยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์เดิมมีชื่อว่า”เมืองภูกามยาวหรือพยาว”เคยมีเอกราชสมบูรณ์มีกษัตริย์ปกครองสืบราชสันตติวงศ์มาปรากฎตามตำนานเมืองพะเยา
ดังนี้
พุทธศักราช 1602
(จุลศักราช421) พ่อขุนเงินหรือลาวเงินกษัตริย์ผู้ครองนครเงินยางเชียงแสนได้ให้ขุนจอมธรรมโอรสองค์ทรง
2 ให้ปกครองเมืองภูกามยาว
ซึ่งเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้ขุนจอมธรรมครองเมืองภูกามยาวได้ 24ปี
ก็สิ้นพระชนม์ขุนเจื่องโอรสได้ขึ้นครองราชย์แทนใน
ขณะครองเมืองได้รวบรวมลี้พลไปช่วยเมืองนครเงินยาง
ของขุนชินผู้เป็นลุงจนรอดพ้นจากการรุกรานของแกวหรือญวนได้สำเร็จ
ขุนชินทรงโสมนัสยิ่งนักจึงยกธิดาชื่อ พระนางอั๊วคำ
สอนให้และสละราชสมบัติให้แก่ขุนเจื่องเมื่อขุนเจื่องได้ครองเมืองเงินยางแล้วจึงให้โอรสชื่อว่า”ลาวเงินเรือง”ขึ้นครองเมืองพะเยาแทนท้าวลาวเงินเรืองครองเมืองพะเยาได้๑๗ปีก็สิ้นพระชนม์
ขุนแดงโอรสครองราชย์ต่อมาเป็นเวลา7 ปีขุนชองซึ่งเป็นน้าก็แย่งราชสมบัติและได้ครองเมืองพะเยาประมาณ
20ปีและมีผู้ครองราชย์สืบต่อมาจนถึงพระยางำเมืองกษัตริย์เมืองพะเยาองค์ที่9
ซึ่งเป็นราชบุตรของพ่อขุนมิ่งเมือง เมื่อพระชนมายุได้16ชันษา พระบิดาส่งไปศึกษาที่สำนักสุกันตฤาษีเมืองลพบุรี
จึงได้รู้จักกับพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัยโดยได้ศึกษาศิลปศาสตร์จากอาจารย์เดียวกันและทรงเป็นสหายกันตั้งแต่นั้นมา
เมื่อเรียนจบก็เสด็จกลับเมืองพะเยาปีพุทธศักราช1310 พ่อขุนมิ่งเมืองพระราชบิดา
สิ้นพระชนม์จึงได้ขึ้นครองราชย์แทน
ต่อมาพ่อขุนเม็งรายได้ยกทัพมาประชิดเมืองพะเยา
พ่อขุนงำเมืองสั่งให้ไพร่พลอยู่ในความสงบและได้ให้เสนาอำมาต์ออกต้อนรับโดยดีพระองค์ได้ยกเมืองชายแดนบางเมืองให้แก่พ่อขุนเม็งรายเพื่อเป็นการสงบศึกและทั้งสองพระองค์ยังได้ทำสัญญาเป็นมิตรต่อกันตลอดไปพระยาร่วงซึ่งเป็นสหายสนิทได้เสด็จมาเยี่ยมเยือนพ่อขุนงำเมืองเป็นประจำทุกปีและได้มีโอกาสรู้จักพ่อขุนเม็งรายทั้งสามพระองค์ทรงเป็นพระสหายสนิทกันมากถึงกับได้หันหลังพิงกันพร้อมกับทำสัจจปฏิญาณ
แก่กัน ณ ริมฝั่งแม่น้ำกู(แม่น้ำอิง)
ว่าจะไม่ผูกเวรแก่กันจะเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันและได้กรีดโลหิตออกรวมกันในขันผสมน้ำดื่มพร้อมกัน
เมื่อปีพุทธศักราช1816 พ่อขุนงำเมืองสิ้นพระชนม์ลงขุนคำแดงและขุนคำลือได้สืบราชสมบัติต่อมาตามลำดับ
ในสมัยขุนคำลือนี้เองที่เมืองพะเยาต้องเสียเอกราชไปพระยาคำฟู
แห่งนครชัยบุรีศรีเชียงแสนได้ร่วมกับพระยากาวเมืองน่านยกทัพมาตีเมืองพะเยาพระยาคำฟูตีเมืองพะเยาได้ก่อนและได้เกิดขัดใจกับพระยากาวทำให้เกิดการสู้รบพระยาคำฟูเสียทีจึงยกทัพกลับเชียงแสน
เมืองพะเยาจึงได้รวมอยู่กับอาณาจักรล้านนาตั้งแต่นั้นมาพุทธศักราช 2386
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ให้เมืองพะเยาเป็นเมืองขึ้นของนครลำปางหลังจากนั้นก็ได้มีผู้ครองเมืองพะเยาต่อมาอีกหลายท่านจนถึงปีพุทธศักราช2457
ได้ยุบเลิกตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองแล้วใช้ตำแหน่งนายอำเภอแทนพะเยาจึงมีฐานะเป็นอำเภอพะเยาต่อมาเมื่อวันที่
28 สิงหาคม พ.ศ. 2520 พะเยาจึงได้รับการยกฐานะจากอำเภอพะเยา
ขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น